English
Español
Português
русский
Français
日本語
Deutsch
tiếng Việt
Italiano
Nederlands
ภาษาไทย
Polski
한국어
Svenska
magyar
Malay
বাংলা ভাষার
Dansk
Suomi
हिन्दी
Pilipino
Türkçe
Gaeilge
العربية
Indonesia
Norsk
تمل
český
ελληνικά
український
Javanese
فارسی
தமிழ்
తెలుగు
नेपाली
Burmese
български
ລາວ
Latine
Қазақша
Euskal
Azərbaycan
Slovenský jazyk
Македонски
Lietuvos
Eesti Keel
Română
Slovenski
मराठी
Srpski језик 2025-10-21
หลักการสำคัญของการจัดเก็บผลิตภัณฑ์เคมีอย่างปลอดภัยในชีวิตประจำวันคือการจำแนกประเภทและการแยก สภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ และการติดฉลากที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น การรั่วไหล การกัดกร่อน หรือไฟไหม้เนื่องจากการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม
1. แยกประเภทและจัดเก็บแยกกันเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาจากการผสม
เก็บสารเคมีตามคุณสมบัติ ตัวอย่างเช่น เก็บกรด (เช่น น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ) และเบส (เช่น สารฆ่าเชื้อ 84 ชนิด) ให้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง เพื่อป้องกันการเกิดก๊าซพิษเมื่อผสมกัน
ผลิตภัณฑ์ที่ติดไฟได้ (เช่น แอลกอฮอล์และน้ำมันเบนซิน) ควรเก็บแยกต่างหากในที่เย็น ห่างจากแหล่งไฟและแหล่งพลังงาน และต้องไม่เก็บร่วมกับสารออกซิไดเซอร์ (เช่น สารฟอกขาว)
2. ควบคุมสภาพแวดล้อมการจัดเก็บข้อมูล
อุณหภูมิ: ผลิตภัณฑ์เคมีส่วนใหญ่ควรเก็บให้ห่างจากแสงและในที่เย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงหรือใกล้กับแหล่งความร้อน เช่น เครื่องทำความร้อนหรือเตา เพื่อป้องกันการระเหย การเสื่อมสภาพ หรือการระเบิด
ความชื้น: ผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพหรือเสื่อมสภาพ (เช่น สารทำความสะอาดและปุ๋ยบางชนิด) ควรปิดผนึกและเก็บไว้ในที่แห้ง และใช้สารดูดความชื้นเพื่อป้องกันความชื้นได้
3. การจัดการคอนเทนเนอร์และฉลาก
ต้องการเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม หากจำเป็นต้องใช้ภาชนะใหม่ ให้เลือกภาชนะที่ทนต่อการกัดกร่อนและปิดผนึกอย่างดี (เช่น ขวดแก้วหรือขวดพลาสติก) และติดฉลากชื่อผลิตภัณฑ์ วันหมดอายุ และคุณสมบัติอันตราย
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง: เก็บผลิตภัณฑ์เคมีไว้ในตู้ล็อคสูงหรือกล่องเก็บเฉพาะเพื่อป้องกันการจัดการหรือการกลืนกินโดยไม่ตั้งใจ
การกระทำที่ต้องห้าม: ห้ามใช้ขวดเครื่องดื่มเพื่อบรรจุผลิตภัณฑ์เคมีใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการกลืนกินโดยไม่ตั้งใจ อย่าทิ้งผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุตามต้องการ ควรจัดประเภทเป็น "ขยะอันตราย" เพื่อนำไปกำจัดหรือติดต่อชุมชนเพื่อนำไปรีไซเคิล
มาตรการฉุกเฉิน:ในกรณีที่มีการรั่วไหลให้สวมถุงมือและหน้ากากก่อนใช้ผ้าแห้งหรือทรายดูดซับสารที่รั่วไหลแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากสัมผัสกับผิวหนังหรือกลืนเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากทันทีและไปพบแพทย์ทันที
-